จงวิดน้ำออกจากเรือ
มีสัมมาทิฏฐิ เกิดวิปัสสนาญาณ
แยกกะทิออกจากน้ำมัน
และนามล้วนๆได้
จิตที่เป็นนามรูป
เป็นที่ตั้งของ ราคะ โทสะ โมหะ
เราจะเอา ราคะ โทสะ โมหะออก
เราก็แยกรูปออกมาจากนามเสีย
เหมือนกะทิ เก็บไว้นานก็เสีย
เราต้องแยกเอากะทิออกมา
เหลือแต่น้ำมัน ก็ไม่เสียง่าย
การจะแยกอย่างไร
เป็นขบวนการของมรรคแปด
เริ่มต้นด้วยการใช้ปัญญา
คือ สัมมาทิฏฐิ
คำจำกัดความของสัมมาทิฏฐิ
ก็คือ อริยสัจจ์สี่นั่นเอง
ว่างอยู่แต่ไม่รู้คือโมหะ
จิตมีขันธ์ห้าประกอบด้วย
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ที่สร้างความรู้สึกพอใจ เรียกว่าราคะ
ไม่พอใจ เรียกว่าโทสะ
ไม่รู้สึกพอใจและไม่รู้สึกว
ในจิตเรามีทั้ง 3 ตัวนี้ เกิดขึ้นเสมอ
ให้รู้สึก ให้สังเกต ให้เห็นถึงความรู้สึกนั้นเส
มันมีอยู่ก็รู้ มันไม่มีอยู่ก็รู้
พอใจก็รู้ ไม่พอใจก็รู้
ไม่มีความพอใจ ไม่มีความไม่พอใจก็รู้
ให้พยายามสังเกตตัวสุดท้าย
คือภาวะที่ไม่มีความพอใจ และไม่มีความไม่พอใจ
ว่ามันมีหรือไม่
เพราะจิตไม่ได้มีความพอใจ ความไม่พอใจ
หรือคลุมเครือ ตลอดเวลา
มันมีเป็นบางครั้ง
แต่ช่วงที่มันไม่มี เราเคยสังเกตมั้ย
ความพอใจก็ไม่มี ความไม่พอใจก็ไม่มี
ความรู้สึกคลุมเครือก็ไม่มี
ภาวะว่างๆ นั้น ถ้ารู้
เราเรียกภาวะนั้นว่า อุเบกขา
ถ้ามีอยู่แต่เราไม่รู้ เรียกว่า โมหะ
Direk Saksith
www.buddhayanando.com
f: พระพุทธยานันทภิกขุ, พลิกใจให้ตื่นรู้,
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท, เซนสยาม
Dynamic Meditation (นวัตกรรมแห่งสติ)
https://www.facebook.com/groups/1996419587251309/