ภารกิจแรกคือแสวงหากัลยาณมิตร
เหมือนเราจะเรียนคอมพิวเตอร์
ก็ต้องเริ่มต้นฝึกกับครู หรือถามผู้รู้เสียก่อน
หรือฝึกจากหนังสือตำรา
ฝึกไป ลองไป เล่นไป ทำไป เดี๋ยวก็เป็นฉันใด
การศึกษาชีวิตก็ฉันนั้น
เราต้องมีคู่มือและเครื่องมือ
มีครูอาจารย์หรือกัลยาณมิตร
ช่วยบอกวิธีการ จนได้ดวงตา
เหมือนปัญจวัคคีที่ได้พระพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตร
จนท่านได้ดวงตาเห็นธรรม
ดวงตานั้นได้แก่ วิชชา ปัญญา ญาณ แสงสว่าง
ยุคสมัยปัจจุบันนี้
ถ้าเรายังไม่ได้ตาปัญญาเป็นครูบาอาจารย์
เราจะเอาใครเป็นกัลยาณมิตรภายในของเราล่ะ?
ดังนั้น ภารกิจแรกที่สุดคือ
จะต้องแสวงหากัลยาณมิตรที่ถูกต้อง
ทั้งภายนอกและภายในให้เจอ
มิฉะนั้น การปฏิบัติธรรมจะก้าวหน้าลำบากมาก
ความอยากเป็นได้ทั้งเหตุและ ผลของอวิชชา
อวิชชาทำให้เกิดตัณหา
หรือความอยาก
เพราะเราไม่รู้ เราจึงเกิดความอยาก
แต่ในขณะเดียวกัน
ความอยากก็เป็นเหตุ
เพราะเราอยากเราจึงยึด
พอเรารู้ว่าอวิชชาเป็นเหตุของตัณหา
แต่อะไรเล่าเป็นเหตุของอวิชชา
อะไรคือที่สุดของที่สุด
ถ้าไม่เจอกัลยาณมิตร
เราก็เป็นอวิชชาอยู่เรื่อย
แต่ถ้าเจอกัลยาณมิตร
วิชชาก็เกิดขึ้น
ธรรม ๒ ประการ
๑. กัลยาณมิตร
๒. เมื่อเราเจอครูบาอาจารย์เจอคนดี
เจอคนรู้ เจอคนมีประสบการณ์
เราก็ต้องมีโยนิโสมนสิการ
คือมีปัญญาเข้าใจสิ่งที่ท่านนำเสนอ
ถ้าเราไม่มีปัญญา
ท่านพูดเท่าไรก็ไม่เข้าใจ
เพราะเราไม่มีโยนิโสมนสิการ
แต่ถ้ารู้จักนำมานึก นำมาคิด
พิจารณาในสิ่งที่ท่านพูด
ใช่ ไม่ใช่ จริง ไม่จริง
มันก็จะเกิดโยนิโสมนสิการขึ้นมา
เพราะฉะนั้น เหตุของอวิชชา
ก็คือการไม่ได้พบกัลยาณมิตร
และถ้ามีโยนิโสมนสิการของวิชชา
ก็จะได้พบกัลยาณมิตร
ทั้งภายนอกและภายใน
เพราะถ้ามีโยนิโสมนสิการแล้ว
มันก็ต่อไปเรื่อยๆ
ทำไมปฏิบัติแล้วด้ผลช้า